22 มกราคม 2550
เรียกว่าโชคดีรับปีหมูทองคนหนึ่ง สำหรับพระเอกมาดเซอร์ “อั๋น-วิทยา วสุไกรไพศาล” ดาราหนุ่มของทีวีธันเดอร์ ที่ล่าสุดมีภาพยนตร์ “แฝด” ของค่ายจีทีเอช ประกบคู่กับม่ายสาวพราวเสน่ห์ “มาช่า วัฒนพานิช” นอกจากนั้นยังมีละคร “ฟ้ากับตะวัน” ที่ได้มีโอกาสประกบคู่กับนางเอกซูเปอร์สตาร์ “พอลล่า เทเลอร์” นอกจากนั้น หนุ่ม “อั๋น” ยังมีข่าวกุ๊กกิ๊กกับสาวสวยถึง 2 คน นำโดย “พลอย-ชิดจันทร์ รุจิพรรณ” และสาวสวยรวยเสน่ห์ “จิ๊บ-ปกฉัตร เทียมชัย” งานนี้เจ้าตัวเปิดเผยอย่างหมดเปลือกกับความสัมพันธ์ของทั้ง 4 สาวว่า
“การได้ร่วมงานกับพี่ช่าถือว่าเป็นโชคดีครับ เพราะเธอเป็นคนเก่ง แม้จะเคยทำงานร่วมกันในมิวสิกวิดีโอ แต่ในการทำงานช่วงแรกก็รู้สึกเกร็งๆ ต้องใช้เวลาในกองทำความรู้จักกันให้มากขึ้น เมื่อเข้าฉากด้วยกันบ่อยมากขึ้น ได้พูดคุยกันมากขึ้น ความรู้สึกเกร็งก็ค่อยๆ หายไป เหมือนกับการทำลายกำแพงความรู้สึกออก ทำให้ร่วมงานกันคล่องตัวขึ้น”
“ส่วนข่าวที่เกิดขึ้นช่วงต้นการถ่ายทำ (ข่าวมาช่าเลือกอั๋นมาเป็นพระเอก) จริงๆ ผมไม่รู้มาก่อนว่าในหนังเรื่องนี้จะต้องเล่นกับใคร รู้เพียงแต่ว่ามีคนให้มาแคสติ้งหนังเรื่องนี้ เมื่อแคสติ้งได้ค่อยมารู้ทีหลังว่าต้องเล่นคู่กับใคร (แต่คนก็มองว่าเป็นเด็กเส้น) ตัวผมไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น ผมมองว่าการที่ได้ผมมาเล่นหนังเรื่องนี้ มีกระบวนการสรรหาโดยผ่านบุคคลที่มีความคิดสร้างสรรค์มากมาย เมื่อทีมบริหารและคัดเลือกนักแสดงเพื่อภาพยนตร์เรื่องนี้มีอยู่ ผมก็ไม่ได้ติดใจกับข่าว”“ผมตกใจนะครับที่ได้เห็นข่าวนี้ งงมาก รู้สึกว่าข่าวนี้เป็นข่าวที่ไม่มีข้อมูลที่สุด (หัวเราะ) แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร พยายามทำงานของเราอย่างเต็มที่ ทำตัวให้ปกติที่สุด และเมื่อพี่ช่าออกมาให้ข่าวทั้งหมดก็ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น เพราะด้วยพี่ช่าเป็นคนที่สบายๆ ตั้งใจทำงาน ทำให้งานเสร็จอย่างรวดเร็ว ส่วนตัวผมก็มีเจ็บตัวบ้างในการทำงานในหนังเรื่องนี้ครับ”
จากนั้น “หนุ่มอั๋น” ได้เล่าถึงความยากและความลำบากลำบนในการทำงานภาพยนตร์เรื่อง “แฝด” ให้ฟังต่อ โดยมีฉากที่เกือบตายจากการเล่นกับไฟ ถูกทีมงานเหยียบเข้าไปที่หน้า กับฉากที่อยู่ใต้เตียง นอกจากนั้นยังเกิดแผลจากการโดนเศษแก้วในช่วงแขนและขา
“เรื่องการเจ็บตัว ผมเล่นหนังมา 2 เรื่อง เรื่องแรก “โคลิค เด็กเห็นผี” ผมก็เจ็บตัวมาครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนั้นยังไม่หนักเท่าครั้งนี้ เพราะครั้งนี้ผมโดนเศษแก้วตำแขน โดยฉากนี้ผมอยู่บ้านคนเดียว จู่ๆ ของก็ตก ผมได้มุดลงไปใต้เตียงเพื่อเก็บของ โดยใต้เตียงก็ยังมีเศษเศษสิ่งของที่ตกอยู่ ระหว่างที่คลานของนั้นก็ตำเข้าที่แขนขาจนเกิดแผล ถึงวันนี้แผลนี้ยังเป็นแผลเป็นอยู่ นอกจากนี้ ฉากนี้ยังเป็นฉากที่เราต้องเจอผีหลอก โดยมีผีขึ้นมาเหยียบบนเตียงจนเป็นรอยเท้าทั้งที่เราอยู่บนเตียง ในระหว่างถ่ายทำ รอยเท้านั้นเป็นรอยเท้าของทีมงาน พี่ๆ ทีมงานเขาก็เหยียบ แต่ด้วยที่ไม่รู้ว่าเราอยู่ตรงจุดไหน ทำให้เหยียบไปเหยียบเข้าที่หน้า เจ็บอยู่เหมือนกัน”
“นอกจากนี้ยังมีฉากที่ต้องเล่นกับไฟอีก โดยเราถูกขังอยู่ในบ้าน ทีมงานก็จุดไฟเผา ไฟก็ค่อยๆ ลุกโชนขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างที่รอให้สั่งแอ็กชัน ผมยืนอยู่บริเวณไฟนั้น รู้สึกว่ามันร้อนมากๆ ร้อนแบบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว ทั้งที่ยืนอยู่แค่ 4-5 วินาทีเท่านั้น นอกจากทีมงานแล้ว เขาก็ยังเตรียมรถพยาบาล เครื่องปฐมพยาบาล และก็ยังมีทีมคอยช่วยเหลือ แต่ผมก็เล่นเอง เมื่อทีมงานสั่งแอ็กชัน เราก็รีบวิ่งออกมา แต่เมื่อได้เห็นภาพแล้วก็รู้สึกคุ้มค่า เพราะภาพที่ออกมาสวยงามมากครับ”
จากนั้น พระเอกหนุ่มเผยต่อว่า
การได้เล่นภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญ เพราะนอกจากจะได้ประกบคนดังแล้ว ยังได้ฝึกเรียนภาษาเกาหลีด้วย เพราะในเรื่องต้องเล่นเป็นคนไทยที่อยู่ในเกาหลี และมีฉากที่ต้องใช้ภาษาเกาหลีหลายฉาก ทำให้ต้องฝึกพูด เช่นเดียวกันกับละครเรื่องใหม่ “ฟ้ากับตะวัน” ที่ได้โอกาสได้ประกบคู่กับ “พอลล่า เทเลอร์” ที่หนุ่ม “อั๋น” ต้องรับบทเป็นคนไทยที่ไปทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่น
“เรื่องนี้ผมรับบทเป็นหนุ่มที่ไปเรียนต่อวิศวะที่ญี่ปุ่น และได้ทำงานพิเศษที่นั่น ซึ่งผมได้ไปเจอพอลล่าที่นั่น ซึ่งตัวพอลล่าก็หนีครอบครัวมาเพราะอกหัก แฟนทิ้งไปแต่งงานกับคนอื่น ซึ่งมันก็ทำให้เกิดเรื่องราวขึ้น ละครเรื่องนี้มีแผนจะไปถ่ายทำที่ญี่ปุ่น นอกจากนี้ผมยังต้องเรียนพูดภาษาญี่ปุ่นด้วย ซึ่งการได้เรียนภาษาหลายๆ ภาษาก็เป็นการเปิดโอกาสด้วย เผื่อวันหนึ่งมีใครจ้างไปเล่นต่างประเทศ อย่าง เกาหลี ญี่ปุ่น ก็สามารถเล่นได้ซึ่งผมมองเป็นโอกาสที่ดีครับ”
“ส่วนการทำงานกับพอลล่า ณ วันนี้ผมยังไม่ได้ร่วมงานกันครับ ซึ่งกับน้องเขาก็ถือเป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกัน ก็รู้สึกดีใจ (ถือว่าเราเป็นพระเอกที่โชคดีมากนะ ที่ได้ประกบแต่คนดัง) ครับผม (พูดไปยิ้มไป) กับพี่ช่า, น้องนุ้ย (สุจิรา อรุณพิพัฒน์), น้องหมิง (ชลิษา บุญครองทรัพย์) มาถึงพอลล่า ก็ล้วนเป็นการร่วมงานครั้งแรกทั้งสิ้น ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีมากครับ ที่ได้แสดงกับคนเก่งๆ ทำให้ผมได้ไปทำการบ้านตลอดเวลา เมื่อถึงเวลาได้ร่วมงานกับพอลล่า คงทำให้ผมเกร็งๆ ซึ่งไม่ว่าผมทำงานกับใครใหม่ๆ ก็จะเป็นข่าว ส่วนเรื่องข่าวจับคู่ ผมว่าก็มีแน่ๆ คงหนีไม่พ้นแน่นอนแต่ก็ไม่กลัวครับ”
ได้ประกบกับนางเอกแถวหน้าเมืองไทยหลายคนแล้ว หนุ่มเจ้าเสน่ห์ยังมีข่าวกุ๊กกิ๊กนอกจอกับสาวอีก 2 คนอย่าง “จิ๊บ-ปกฉัตร” และ “พลอย-ชิดจันทร์” อีกด้วย งานนี้จะแก้ตัวยังไงจ๊ะ...
“ข่าวกับน้องจิ๊บ ไม่มีอะไรจริงๆ ครับ ผมได้ไปงานๆ หนึ่ง ระหว่างเข้างานก็ไปเจอน้องจิ๊บ ซึ่งเขาก็ยืนรอทีมงานอยู่ ผมก็ยืนรอเหมือนกัน ระหว่างนั้นเราก็ทักทายคุยกัน เพราะผมก็ยืนอยู่คนเดียวไม่รู้จะคุยกับใคร หลังจากนั้นเจฟฟรี่เดินเข้ามาผมก็ได้ไปคุยกับเจฟ และเดินเข้างาน ปรากฏว่าต่อมาก็เป็นข่าวว่าเราไปจีบน้องเขา ข่าวนี้ผมก็งงมาก ซึ่งผมเองก็ไม่รู้จะเคลียร์ข่าวนี้ยังไง ผมเองก็ไม่มีเบอร์น้องเขา ไม่รู้จะเคลียร์กันยังไง และไม่รู้ว่าน้องเขารู้สึกยังไง (จากนั้นผู้สื่อข่าวก็ถามถึงข่าวกับน้องพลอยต่อทันที) กับน้องพลอยผมไม่รู้จักเลย เพียงเคยเจอในงานครั้งเดียวเท่านั้น ไม่มีอะไรจริงๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าข่าวพวกนี้มาจากไหน ผมเองก็ไม่ค่อยได้ไปไหน สงสัยหน้าโหลมั้งครับ เดินไปไหนก็มีคนมาทักเป็นคนนู้นคนนี้”
ข่าวเยอะแสดงว่าเนื้อหอมมาก หรือว่าความเจ้าชู้ถ่ายทอดผ่านค่ายที่มีรุ่นพี่อย่าง “โอ-โน่-เคลลี่” หรือเปล่าเนี่ย!!
“เรื่องเนื้อหอมผมว่าไม่นะ ผมก็ทำตัวปกติ ส่วนตัวแล้วผมก็เป็นคนเงียบๆ คุยไม่เก่ง แต่อาจจะเป็นเพราะไม่ระวังตัวมากกว่า ส่วนเรื่องความเจ้าชู้ คงไม่เกี่ยวกับพี่ๆ โอ โน่ หรือพี่เคลลี่มั้งครับ ตัวผมก็เป็นของผมแบบนี้ กับพี่ๆ ในค่ายก็ไม่ค่อยได้เจอกันด้วยซ้ำ ความเจ้าชู้ ตอนนี้ผมถูกมองไปแล้วครับ ไม่ว่าผมไปทางไหนก็มีข่าวกับผู้หญิงตลอดเวลา ทำให้ผู้หญิงเห็นข่าวไม่กล้าเข้ามาแล้วล่ะครับ”
-----------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น